จัดฟันแบบโลหะ
(Metal Braces)
เป็นวิธีการจัดฟันที่ใช้กันมายาวนานและได้รับความนิยมสูงสุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟัน เช่น ฟันซ้อน ฟันเก ฟันห่าง หรือฟันยื่น โดยอาศัยแรงดึงจากลวดและแบร็กเก็ตโลหะที่ติดอยู่บนผิวฟัน เพื่อค่อยๆ ปรับตำแหน่งของฟันให้เรียงตัวอย่างเหมาะสม

ประเภท การจัดฟันแบบโลหะ
การจัดฟันแบบโลหะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่:
จัดฟันแบบโลหะทั่วไป
(Traditional Metal Braces)
- ใช้แบร็กเก็ตโลหะติดบนฟัน และใช้ลวดยึดติดผ่านแบร็กเก็ต
- ใช้ยางรัด (O-ring) เพื่อช่วยรักษาตำแหน่งของลวด
- เป็นตัวเลือกที่มีราคาย่อมเยาที่สุด


จัดฟันแบบโลหะ Damon
(Self-Ligating Metal Braces)
- ใช้เทคโนโลยี self-ligating ซึ่งไม่ต้องใช้ยางรัด
- ลดแรงเสียดทาน ทำให้ฟันเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น
- เจ็บน้อยลง และพบทันตแพทย์น้อยครั้งกว่าการจัดฟันแบบธรรมดา
ข้อดี ของการจัดฟันแบบโลหะ
ข้อเสีย ของการจัดฟันแบบโลหะ
- มีประสิทธิภาพสูง – ในการแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟัน
- ราคาไม่แพงง – เมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบใส (Invisalign)
- เหมาะกับทุกวัย – ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงผู้ใหญ่
- เปลี่ยนสีของยางรัดได้ – ทำให้ดูสนุกสนาน
- มองเห็นได้ชัด – อาจทำให้ขาดความมั่นใจ
- อาจมีการระคายเคือง – ในช่องปากช่วงแรก
- ทำความสะอาดยากกว่า – ต้องดูแลเรื่องสุขอนามัยมากขึ้น
- ไม่สามารถถอดออกเองได้ – ต้องให้ทันตแพทย์ดูแล
ประโยชน์ ของการจัดฟันแบบโลหะ

ทำให้ฟันเรียงตัวสวยงาม

เพิ่มความมั่นใจในรอยยิ้ม

ปรับปรุงการบดเคี้ยว

ลดอาการปวดขากรรไกร

ลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น ฟันผุและโรคเหงือก

ช่วยให้ทำความสะอาดฟันได้ง่ายขึ้น

ลดโอกาสเกิดหินปูนสะสม
กระบวนการ จัดฟันแบบโลหะ
﹡ ซึ่งควรใส่ตามที่ทันตแพทย์แนะนำ เพื่อไม่ให้ฟันเคลื่อนกลับไปตำแหน่งเดิม
ระยะเวลาในการจัดฟันแบบโลหะ
- โดยเฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 1.5 – 3 ปี
- ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหาการเรียงตัวของฟัน
ระยะเวลาในการจัดฟันแบบโลหะ
- โดยเฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 1.5 – 3 ปี
- ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหาการเรียงตัวของฟัน










































ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันแบบโลหะ
- ราคาเริ่มต้น 35,000 – 60,000 บาท (ขึ้นอยู่กับคลินิกและความซับซ้อนของเคส)
- สามารถแบ่งชำระรายเดือนได้ โดยปกติเริ่มต้นที่ 1,000 – 1,500 บาท/เดือน

ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันแบบโลหะ
- ราคาเริ่มต้น 35,000 – 60,000 บาท (ขึ้นอยู่กับคลินิกและความซับซ้อนของเคส)
- สามารถแบ่งชำระรายเดือนได้ โดยปกติเริ่มต้นที่ 1,000 – 1,500 บาท/เดือน
การดูแลตัวเอง
ก่อน ระหว่าง และหลังจัดฟัน

การดูแลตัวเองก่อน ระหว่าง และหลังจัดฟัน
✅ ตรวจสุขภาพช่องปาก และรักษาฟันให้แข็งแรง เตรียมตัวถอนฟัน (หากจำเป็น)
🚫 หลีกเลี่ยง อาหารแข็งและเหนียว เช่น ถั่ว น้ำแข็ง หมากฝรั่ง
✅ ใช้แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันและไหมขัดฟัน
✅ พบทันตแพทย์ตามนัดทุกเดือน
✅ ใส่รีเทนเนอร์ตามที่ทันตแพทย์แนะนำ
📅 ตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำ ทุก 6 เดือน
บทความที่เกี่ยวข้อง

จัดฟันเด็ก: คู่มือสำหรับคุณพ่อคุณแม่
การจัดฟันสำหรับเด็กเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ลูกของคุณมีฟันที่เรียงตัวสวย สุขภาพฟันแข็งแรง และเพิ่มความมั่นใจในรอยยิ้ม การเลือกจัดฟันให้เด็กตั้งแต่อายุยังน้อยช่วยแก้ปัญหาการเรียงตัวของฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของขากรรไกร นอกจากนี้ยังช่วยให้ลูกน้อยของคุณเติบโตด้วยความมั่นใจและมีสุขภาพฟันที่ดีในระยะยาว ในบทความนี้ เราจะพาคุณพ่อคุณแม่มาทำความรู้จักกับการจัดฟันสำหรับเด็กในทุกมิติ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ และสนับสนุนให้ลูกของคุณมีรอยยิ้มที่สวยงามที่สุด ประเภทของเครื่องมือจัดฟันสำหรับเด็ก การเลือกประเภทของเครื่องมือจัดฟันมีผลต่อประสิทธิภาพและความสะดวกสบายของเด็ก มาดูกันว่าแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียอย่างไร รวมถึงวิธีการเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการของเด็กและงบประมาณของคุณพ่อคุณแม่ 1. โลหะ เป็นประเภทที่พบมากที่สุด มีประสิทธิภาพสูง และมีค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่า เหมาะสำหรับทุกเคสการเรียงฟัน แต่ต้องดูแลทำความสะอาดอย่างใส่ใจ 2. เซรามิก สีใกล้เคียงกับฟัน ดูเป็นธรรมชาติกว่า

จัดฟันแบบใส vs จัดฟันโลหะ แบบไหนเหมาะกับคุณ?
กำลังวางแผนจัดฟันแต่ยังลังเลว่าจะเลือกจัดฟันแบบใสดีหรือจัดฟันโลหะแบบดั้งเดิม? บทความนี้จะช่วยคุณเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสมของแต่ละแบบอย่างชัดเจน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น พร้อมแนะนำทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องงบประมาณ ความสวยงาม และผลลัพธ์ในการรักษา
ข้อควรปฏิบัติในช่วงจัดฟันแบบโลหะ หลีกเลี่ยงการกัดของแข็ง เช่น น้ำแข็ง ถั่ว ลูกอมแข็ง ใช้แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟัน เพื่อช่วยทำความสะอาดซอกฟัน ใช้ไหมขัดฟันและน้ำยาบ้วนปากเป็นประจำ พบทันตแพทย์ทุกเดือนเพื่อติดตามผลการรักษา